ฉันมาไกล..ในวัย 41 อยากย้อนไปตอน 14 ม.2 ห้อง 1
คุณพระ !! ฉันเดินทางมากว่าครึ่งชีวิตแล้วเหรอเนี้ย ฉันเพิ่งมีลูก ฉันยังไม่ได้ทำอะไรอีกหลายอย่างที่อยากทำ แต่ชีวิตไม่ได้เป็นของฉันคนเดียวอีกต่อไป ดูนั่นสิ นางฟ้าตัวน้อยของฉันกำลังหลับปุ๋ย นี่แหละเป็นเวลาที่ฉันมีความเป็นส่วนตัวที่สุด 😀 ก็แค่เที่ยงคืนถึงตี 3 กว่าๆเอง แต่ฉันจะตื่นมาเพื่อ...
สุขสันต์วันเกิดไง!!! รู้ไหม เธอแก่มากที่สุดตั้งแต่เกิดมาเลย 5555+ อย่าๆ อย่ายิ้มเยอะ ตีนกามาทั้งรังแล้วจ้าาาา
เฮ้อ.. บางทีก็ไม่อยากถึงวันเกิดเลย ให้ตายเหอะ คิดแบบนี้ตั้งแต่อายุ 35 แล้ว เป็นวัยที่ไม่กล้าจะบอกอายุตัวเองกับใครเลย น้องๆที่ทำงานด้วยกันชอบถาม "พี่มุ่ยอายุเท่าไหร่?" ไม่ค่อยเข้าใจว่าอยากรู้จริงๆ หรือจะด่า หรือว่าจะชม มันก็คิดได้หลายๆทาง ที่จำได้แม่นคือ ตอนยังไม่ 30 ก็มีเพื่อนร่วมงานเข้าใจว่า อายุเราปาไป 34-35 แต่พออายุ 30+ จริงๆ ก็มีคนมองว่าไม่ถึง เอิ่ม ควรจะภูมิใจดีไหม 5555
ความสุขของคนวัยฉันก็คงไม่พ้น นั่งย้อนนึกถึงอดีตส่วนดีๆ คิดถึงตัวเองตอน 14 เอ...มีความรักรึยังนะ อิอิ จำได้แต่ว่าเลื่อนห้องจาก ม.1/6 กระโดดไปอยู่ห้อง King ม.2/1 เพราะสอบได้ที่ 1 ของโรงเรียนแบบฟลุคๆ แต่พอย้ายมาอยู่ห้อง 1 ก็ไม่เคยสอบได้ที่ 1 อีกเลย เออนะ เวลาตั้งใจอะไรมากไปก็ไม่ค่อยจะได้ดี คงเป็นเพราะกดดันตัวเองเกินไป เราคงเหมาะเป็นสายชิลๆต่อไป
ตอนนั้นแอบชอบเพื่อนห้องเดียวกันด้วย เหมือนนางจะรู้ตัวด้วย เขินจัง เป็น puppy love ที่ทำให้เจียมตัวมาก เพราะนางไม่สนใจฉัน เชอะ! ได้เรียนกับเพื่อนห้องเทพอยู่ 2 ปี จากนั้นก็แยกย้าย ฉันก็ไปอยู่ห้อง 1 สองตัว (เก่งกว่าเดิม :) คือ ม.4/11 เป็นห้องศิลป์-ฝรั่งเศส เพราะรู้ตัวเองว่าอ่อนแอทางคณิตศาสตร์มาก แต่ชอบเรื่องภาษามากกว่า จริงๆมันน่าจะมี ศิลป์-อังกฤษด้วยเนาะ เพราะฝรั่งเศสที่เรียนมาแทบไม่ได้ใช้เลย นอกจาก "สวัสดี" "ขอบคุณ" และ "ลาก่อน" ขนาดเรียนได้ 4 หมด ยังจำได้อยู่แค่เนี้ย :)
ตอน 14 นี่ จำได้ว่าเป็นนักอ่านตัวยงของห้องสมุดโรงเรียน ไม่ใช่แนววิชาการนะ แต่เป็นมุมหนังสือนิทาน เรื่องแปล ต่างๆ นานา ขลุกอยู่ได้ตลอดเมื่อมีเวลาว่าง ไล่อ่านแทบจะหมดทุกเล่ม แล้วที่ท้ายเล่มเวลายืมหนังสือจากห้องสมุด จะมีชื่อและวันที่เขียนแปะไว้ แอบภูมิใจว่าผ่านมือฉันมาหมดแล้ว ฮิฮิ นอกจากเป็นนักอ่านแล้วยังเป็นนักล่ารางวัลเรียงความ เวลาโรงเรียนจัดงานด้วย รางวัลที่ได้ประจำคือ พจนานุกรม และดิกชันนารี บางทีก็ไม่ได้คิดถึงรางวัล แต่รู้สึกตัวลอยๆ เวลาครูประกาศชื่อเราหน้าเสาธงให้ไปรับรางวัล ฉันจะทำหน้านิ่งๆ เก็บอาการแต่ใจมันพองโต เบิกบานยิ่งกว่าทานตะวัน
...อดีตมันก็มีทั้งเรื่องที่สวยงาม และไม่สวย บางความทรงจำถูก delete ทิ้งไป บางอย่างก็ save ไว้อย่างดี เป็นคนที่เลือกที่จะลืมหลายๆอย่าง เพราะจริงๆแล้วไม่ค่อยชอบตัวเองในอดีตหลายๆเรื่อง ไม่ได้น่ารักเหมือนตอน 41 หรอกนะจะบอกให้ เคยทำตัวแบบฉันเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ฉันต้องเป็นที่ 1 ไม่ยอมใคร ดื้อเงียบๆ ภายใต้ความเรียบร้อยและแลดูเป็นเด็กเรียน แต่ก็ไม่ได้ดื้อก๋ากั๋นอะไรขนาดนั้น เพียงแต่ความคิดมันดื้อรั้น และมีโลกส่วนตัวสูงไป
ถึงตอนนี้ ได้มองเห็นตัวเองในอดีตที่เป็นแบบนั้น คิดแบบนั้น ก็เริ่มวิเคราะห์หาสาเหตุที่ดีและไม่ดีทั้งหลายแหล่ เพื่อจะปรับมาใช้กับลูก จะต้องเลี้ยงยังไงถึงจะไม่เป็นแบบนั้น จะสอนยังไงให้ลูกน่ารักกว่าที่แม่เคยเป็น น่ารักไม่ใช่หน้าตาการแต่งกาย แต่ต้องน่ารักมาจากใจ ...ช่างเป็นโจทย์ที่ยากที่สุดในชีวิต!
นี่คงเป็นวันเกิดอีกปีที่ไม่ได้คิดถึงแต่เรื่องตัวเอง ของขวัญของฉันนอนกลิ้งไปมาอยู่บนที่นอน แม่จะแกะเมื่อไหร่ก็ได้ ชื่นชมเท่าไหร่ก็ได้ ลูกยังบริสุทธิ์สดใสเหลือเกิน จนแม่ต้องคอยระวังสิ่งแปลกปลอมต่างๆ แม้กระทั่งระวังตัวเองเมื่อหยิบยื่นอะไรให้ลูก ...หนูเป็นของขวัญที่มีค่าที่สุด จนแม่ไม่ต้องการอะไรเลย แค่อยากเลี้ยงดูหนูให้ดีพอ ถึงหนทางของเราไม่ได้ราบรื่นนัก แต่แม่กับพ่อก็จะพยายามอย่างดีที่สุด...
ขอบคุณของขวัญกล่องนี้ ที่เป็นขวัญและกำลังใจอันยิ่งใหญ่ให้แม่ ถึงแม้จะ 41 แต่แม่ก็จะเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นของเล่น เป็นได้ทุกอย่างที่หนูต้องการ และที่สำคัญ หนูต้องเป็นคนดีของแม่ด้วย แม่จะทำโจทย์นี้ให้ดีที่สุด มันท้าทายมากๆ แต่มันก็ทำให้แม่มีความสุขมากๆ เช่นกัน
Happy Birthday To Me ;)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น