40 แล้วไง...นมแม่ไม่มีวันหมดอายุนะจ๊ะ
นมแม่ดีที่สุด จริงที่สุด โมณาจะ 8 เดือนไม่กี่วันนี้แล้ว ก็ยังคงเป็นเด็กนมแม่ล้วนๆ เพิ่งเริ่มกินอาหารหลัง 6 เดือนเต็มนี่เอง เป็นความภูมิใจสุดๆ ของแม่ ที่สามารถผลิตน้ำนมให้ลูกได้ ไม่ได้หมดอายุไปตามวัยวุฒิที่มากขึ้น :D ...ธรรมชาติยังปราณีมนุษย์แม่เสมอ นี่แหละ อานุภาพแห่งความรักของแม่ มักจะมีพลังวิเศษ (ลูกตกเตียงยังไม่เป็นไรเลย 5555 เกี่ยวมั้ย?)
ว่ากันตามจริงแล้ว ก็มีช่วงนึงที่ต้องเสริมนมผสมบ้างนะ อย่างตอน 4 วันแรกที่นอน รพ. หลังคลอด นมยังไม่มาดี ลูกก็เริ่มหิวเก่งแล้ว ถึงแม้คุณหมอจอมเฮียบของแม่จะสั่งนักหนาว่า ไม่ได้ ต้องกินนมแม่เท่านั้น ห้ามให้นมอื่น แต่พยาบาลยังมากระซิบเองว่า ต้องแอบให้เพราะน้องหิวค่ะแม่ โดยเฉพาะน้องคนเนี้ย คนที่ชื่อโมณาเนี้ยะ กินจุมาก 555+
วิธีให้นมของพยาบาลก็คือ ป้อนนมด้วยแก้วเล็กๆ หรือฝานมนั่นแหละ จะไม่ใช้จุกนม เพราะกลัวเด็กติดจุก แล้วจะไม่ดูดนมแม่ เรื่องที่หมอห้ามไม่ให้นมอื่นนอกจากนมแม่เนี้ย พอเปลี่ยนหมอมา รพ.ใกล้บ้าน ได้คุยกับหมอเด็กคนใหม่ถึงได้สติว่า เป็นแนวคิดที่ดีนะ แต่! ในความเป็นจริง จะทำได้ก็ต่อเมื่อนมแม่เยอะพอ ถ้าไม่พอ ลูกกินไม่อิ่ม ก็ไม่สบายท้อง ร้องงอแงเป็นธรรมดา ดังนั้น แม่ก็ต้องเสริมนมผสมให้ไปก่อน ตาสว่างเลย รีบให้หมอใหม่จัดนมผงให้เลย เพราะถ้ากินนมไม่พอในช่วงแรก มีผลต่อภาวะตัวเหลืองในเด็กด้วย เรื่องเหลืองนี่ เอาไว้ค่อยมาเล่าอีกที มันยาวไป แม่เริ่มหาว...ง่วงล่ะ ดึกดื่นไม่นอน ตื่นมาโม้อยู่ได้ หุหุ :)
กลับมาที่ประสบการณ์ให้นมครั้งแรก มีอยู่ 2 ภาพประทับใจและอมยิ้มคือ
-- วันแรกที่พยาบาลเอาลูกมาให้ดูดนมบนเตียงพักฟื้น มันยังไม่มีนมเลย แต่ลูกก็ดูดจ๊วบๆ อย่างเอร็ดอร่อย ปากเล็กๆของตุ๊กตาตัวน้อย น่ารักจัง ตัวลูกก็หอมสุดๆ กอดลูกแล้วรู้สึกหายป่วยทันที
-- อีกภาพนึงคือ ตอนเช้าๆ หลังคลอดวันที่ 3-4 ยังอยู่ รพ. แม่ต้องตื่นไปฝึกเอาลูกเข้าเต้าด้วย ณ ห้องให้นม กว่าจะเดินกระดืบๆ ไปถึงห้องให้นมได้ น้ำตาจะไหลเพราะเจ็บแผล พอไปถึงก็อดยิ้มไม่ได้ กับภาพที่บรรดาแม่ๆ นั่งเรียงกันสลอน ในชุดให้นมของ รพ. และหมอนให้นมคนละใบ สภาพทุกคนอิดโรยมาก แต่มีความสุข เมื่อนั่งรอสักพักพยาบาลก็จะขานชื่อพร้อมอุ้มลูกมาให้ ...ด.ญ. เอนกธนโชติสกุล... ตอนนั้นยังไม่มีชื่อให้ลูก พยาบาลจะขานนามสกุลแทน แม่ก็ยกมือ มาค่ะ แลกกับตุ๊กตาน้อยที่หลับตาพริ้ม น่าหยิกที่สุด
ถึงตอนฝึกเอาลูกเข้าเต้า ก็ยังแอบยิ้มด้วยความตลกไม่หาย ที่ทุกคนต้องมาให้นมลูกอวดกัน ไม่ต่ำกว่า 10 คนในห้องนั้น ฝ่ายลูกน้อยก็ยังไม่ตื่นนอนดี (เพิ่ง 6 โมงเช้าเอง) แม่ต้องคอยเอานิ้วสะกิดใต้คางเบาๆ ตามที่พยาบาลสอน เพื่อกระตุ้นให้ลูกอ้าปากงับนมแม่ ท่าทางแม่ใหม่ก็ยังเก้ๆกังๆ จะแปะลูกเข้าอกยังไง กลัวลูกหายใจไม่ออกอีก เป็นภาพที่น่ารัก สนุกสนาน ไม่มีวันลืมจริงๆค่ะลูก
พอครบ 4 วันก็ได้เวลากลับบ้าน... พยาบาลห่อตัวหนูเป็นดักแด้เลย แม่กอดลูกแน่นตอนพ่อขับรถออกมาบนถนน รู้สึกลุ้นกับการนั่งรถมากกว่าปกติ ไม่เคยนึกกลัวอุบัติเหตุเท่านี้มาก่อน พ่อไม่ได้ขับซิ่งหรอกนะ ก็ขับปกตินั่นแหละ แต่ที่กลัวเพราะเป็นครั้งแรกที่มีลูกน้อยอยู่ในอ้อมกอดแม่ตอนนั่งรถน่ะสิ ตอนนั้นอยากถึงบ้านเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่อยากลุ้นแล้ว
...ในที่สุดก็ถึงบ้าน welcome home ยินดีต้อนรับสู่บ้านของเรา ต่อไปมันคือบ้านของลูกนะ (ช่วยผ่อนต่อด้วยนะคะ ยาวไปลูก ฮ่าๆ)...
หลังจากกลับมาที่บ้าน คราวนี้ล่ะ ชีวิตจริงแล้ว ไม่มีพยาบาลช่วยดูแลอีกต่อไป ตัวช่วยของแม่คือคุณยาย ก็ยังพออุ่นใจ ด้วยประสบการณ์มีลูก 6 คนเหมือนที่เคยเล่าไว้ แต่ประสบการณ์บางอย่างก็แบบโบร่ำโบราณเกิ้น อย่างให้เอาผ้าอ้อมชุบฉี่เด็กเช็ดลิ้นงี้ ไม่ไหวๆ เราก็ต้องหาเหตุผลมาลบล้างกันหน่อย เดือนแรกของคุณแม่มือใหม่เรียกว่า ครบรสชาติความเป็นคนจริงๆ มีทั้งความสุขปนน้ำตา ความสนุกเคล้าความเหน็ดเหนื่อย ดราม่าและท้อแท้เป็นบางครั้ง ได้นอนน้อยมาก ต้องลุกมานั่งปั๊มนมเพื่อให้มีนมมากพอให้ลูกกิน แต่ก็กัดฟันเพื่อลูก พอแบตแม่ใกล้หมด ต้องรีบชาร์จด้วยการขอพลังจากลูก ได้มอง ได้หอม ได้ชื่นชม เรี่ยวแรงแม่ก็กลับมา...
......แต่ดราม่าเรื่องนมแม่ยังไม่จบแค่นี้ หลังจากคุณยายกลับบ้านไปตอนโมณา 1 เดือนครึ่ง แม่กลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ทรหดมากค่ะ :( ไว้มาต่อกันคราวหน้า และว่าด้วยเรื่องกินนมแม่แล้วไม่ต้องให้กินน้ำ เถียงกันคอเป็นเอ็น ขนาดเอาข้อมูลของ WHO องค์การอนามัยโลกมาแย้งแล้วนะ ยังสู้แม่ๆป้าๆไม่ไหว โอ้ยยยย สนุกค่ะ ไว้มาเล่าต่อนะคะ ขอไปนอนกอดลูกสาวให้ชื่นใจ เติมพลังชีวิตให้แม่สู้ต่อไป

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น